วันพฤหัสบดีที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2558

Assignment 1 : D3.js & The reading

THE READING OF POPULATION SURVEY 2013 

( การสํารวจการอ่านหนังสือของประชากร พ.. 2556 )

Inspiration  :  แรงบันดาลใจ  ?


       สังคมไทยมีนิสัยรักการอ่านโดยเฉลี่ยต่อคนน้อยมาก จากสถิติการอ่านหนังสือของคนไทย
ในปี 2554 ประเทศเวียดนาม ประชาชนอ่านหนังสือเฉลี่ย 60 เล่ม ต่อปี , ประเทศสิงคโปร์ ประชาชนอ่านหนังสือเฉลี่ย 40-60 เล่มต่อปี และประเทศไทยของเรา ประชาชนอ่านหนังสือเพียง 2-5 เล่มต่อปีเท่านั้น
      
      จากสถิติข้างต้นเราจะเห็นได้ว่า คนไทยอ่านหนังสือน้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่น  เพราะธรรมชาติของคนไทยมีนิสัยที่ชอบพูด ชอบฟัง มากกว่า ชอบอ่าน ชอบเขียน อีกทั้งในสังคมโลกยุคปัจจุบันมีสื่อที่ทันสมัยอีกมากมาย จึงทำให้การอ่านของคนไทยยิ่งน้อยลง เช่น มี VCD DVD  อินเตอร์เน็ต ฯลฯ 

ศ.ดร.เกรียงศักดิ์ เจริญวงศ์ศักดิ์ ได้เขียนในหนังสือของท่านว่า  ใครสามารถเอาความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อแก้ปัญหาจะได้เปรียบกว่าคนอื่นๆ ดังนั้นการอ่านจึงมีความสำคัญอย่างมากในสังคมโลกยุคปัจจุบันและยุคอนาคต แต่เป็นที่น่าเสียดายที่สังคมไทยและคนไทยยังให้ความสำคัญกับการอ่านน้อยมาก   
สำหรับคุณประโยชน์ของการอ่านนั้นมีมากมาย  


1.  การอ่าน ทำให้เกิดความคิด คนที่อ่านหนังสือมากมักจะเป็นนักคิด อีกทั้งการอ่านยังทำให้เราสามารถคิดใคร่ครวญมากกว่าการฟัง

2.  การอ่าน ช่วยในการสร้างสมาธิได้ดี คนที่อ่านหนังสือมักเป็นคนที่มีสมาธิ การอ่านจึงเป็นวิธีในการฝึกสมาธิอย่างหนึ่ง

3.  การอ่าน ช่วยในการพัฒนาตนเอง คนที่อ่านหนังสือมากมักเป็นคนที่ชอบเรียนรู้ ชอบที่จะพัฒนาตนเอง

4.   การอ่าน ช่วยให้เกิดการเพลิดเพลิน บางคนเมื่อทำงานเหนื่อย เกิดความเบื่อหน่ายในการทำงาน การอ่านหนังสือ ตลก หนังสือบันเทิง หนังสือนิยาย  จะช่วยให้เกิดการเพลินเพลินได้อีกวิธีหนึ่ง

5.  การอ่าน ช่วยในการสร้างแรงบันดาลใจ คนที่ประสบความสำเร็จมักชอบอ่านหนังสือ การอ่านหนังสือทำให้เขาเกิดความคิด เกิดแรงบันดาลใจ เกิดความมานะที่จะต่อสู้สิ่งต่างๆ


      ดังนั้น คุณประโยชน์ของการอ่าน จึงเป็นการเปิดหน้าต่างให้เราพบโลกที่กว้างขึ้น เราสามารถรู้วัฒนธรรม ประเพณี ความเป็นอยู่ เรื่องราวของประเทศต่างๆ  ของคนอีกซีกโลกหนึ่งก็ด้วยการอ่าน จงอ่านหนังสือมากๆ แล้วชีวิตของท่านจะเกิดการเปลี่ยนแปลง


เครดิต :  ความสำคัญของการอ่านหนังสือ


ประเภทของหนังสือที่อ่านนอกเวลาเรียน/ นอกเวลาทํางาน

เนื่องจากคนที่มีวัยแตกต่างกัน มีความสนใจเลือกประเภทหนังสือที่อ่านแตกต่างกัน



ร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน 
จําแนกตาม ประเภทของหนังสือที่อ่านและกลุ่มวัย  พ..2556

 
กราฟแสดงร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน
จำแนกตามประเภทของหนังสือที่อ่านและกลุ่มวัย พ.ศ. 2556

 
Source code  :  Grouped horizontal bar chart


เหตุผลที่อ่านหนังสือ นอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน จำแนกตามกลุ่มวัย

 เมื่อพิจารณาเหตุผลในการอ่านหนังสือของแต่ละกลุ่มวัย พบว่า มีความแตกต่างกัน คือ วัยเด็ก และวัยเยาวชน อ่านหนังสือเพื่อการศึกษามากที่สุด รองลงมา คืออ่านเพื่อเพิ่มพูนความรู้ สำหรับวัยอื่น อ่านหนังสือ เพราะต้องการทราบข้อมูลข่าวสาร เหตุผลรองลงมี มีความแตกต่างกันตามวัย โดยวัยทำงาน อ่านหนังสือเพื่อเพิ่มพูนความรู้ ขณะที่วัยสูงอายุ อ่านเพราะสนใจ หรืออยากรู้


ร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน 
จําแนกตาม เหตุผลที่อ่านหนังสือ และกลุ่มวัย  ..2556

หน่วย   x1000 คน


กราฟแสดงร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน
จำแนกตามเหตุผลที่อ่านหนังสือ และกลุ่มวัย พ.ศ. 2556


เหตุผลที่ ( ไม่ ) อ่านหนังสือ นอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน จำแนกตามกลุ่มวัย

มื่อพิจารณาสาเหตุที่ไม่อ่านหนังสือ มีความแตกต่างกันตามกลุ่มวัย คือวัยเด็กและวัยสูงอายุ ไม่อ่านหนังสือ เพราะอ่านหนังสือไม่ออกมากกว่าสาเหตุอื่น แต่ลำดับรองลงมามีความแตกต่างกัน คือวัยเด็กไม่อ่านหนังสือเพราะชอบดูโทรทัศน์ ส่วนวัยสูงอายุ ไม่อ่านหนังสือเพราะสายตาไม่ดีตามวัยที่สูงขึ้น สำหรับวัยเยาวชนและวัยทำงานไม่อ่านหนังสือ เนื่องจากชอบดูโทรทัศน์ และไม่มีเวลาอ่าน


ร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไปที่ไม่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน 
จําแนกตาม เหตุผลที่ไม่อ่านหนังสือ และกลุ่มวัย  ..2556 



กราฟแสดงร้อยละของประชากรอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป ที่ไม่อ่านหนังสือนอกเวลาเรียน / นอกเวลาทำงาน
จำแนกตาม เหตุผลที่ไม่อ่านหนังสือ และกลุ่มวัย พ.ศ. 2556

Impact  :  ผลกระทบ  ?


        การไม่อ่านหนังสือ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการพัฒนาคุณภาพทรัพยากรของมนุษย์ของประเทศ เมื่ออ่านหนังสือน้อยลง จะทำให้เด็กขาดทักษะกระบวนการอ่าน ทำให้มีผลเสียตามมาเช่นอ่านหนังสื่อไม่คล่อง อ่านแล้วจับใจความสำคัญของเรื่องที่อ่านไม่ได้ ทำให้เด็กขาดการพัฒนาในเรื่องภาษา เด็กอาจจะได้รับรู้คำศัพท์สำนวนภาษาใหม่ๆ จากภาษาพูด แต่จะไม่เข้าใจความหมายและวิธีใช้ที่ถูกต้องตามกาลเทศะทางด้านวัฒนธรรม  ทำให้เด็กถามอย่างเดียว ไม่นิยมหาวิธีแก้ปัญหา หรือค้นคว้าด้วยตัวเอง การไม่อ่านหนังสือ หรือฟังอย่างเดียวก็จะทำให้ขาดการคิดวิเคราะห์ ทำให้ความสามารถในการอ่านเขียน และคำนวณลดลง



Improve  :  พัฒนา  ?



       ควรมีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือ มีโครงการส่งเสริมการอ่าน จากการสํารวจความคิดเห็นของประชากรที่มีอายุต้ังแต่ 6 ปีขึ้นไป เก่ียวกับวิธีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือ 
พบว่าวิธีการรณรงค์ที่ได้รับ การเสนอแนะมากที่สุด 5 ลําดับแรกคือ 

1. หนังสือควรมีราคาถูกลง ( ร้อยละ 39.0 ) 
2. ปลูกฝังให้รักการอ่านผ่าน พ่อแม่ / ครอบครัว ( ร้อยละ26.3 ) 
3. ให้สถานศึกษา มีการรณรงค์ส่งเสริมการอ่าน ( ร้อยละ 25.2 )
4. ส่งเสริมให้มีห้องสมุด/ห้องสมุดเคลื่อนที่/มุมอ่านหนังสือในชุมชน/พื้นที่สาธารณะ (ร้อยละ25.2) 
5. รูปเล่ม / เนื้อหาน่าสนใจ หรือใช้ภาษาง่าย ๆ ( ร้อยละ 23.2 )
 

 


กราฟแสดงความคิดเห็นของประชากร ที่มีอายุต้ังแต่ 6 ปีขึ้นไป 
เก่ียวกับวิธีการรณรงค์ให้คนรักการอ่านหนังสือ

อ้างอิงข้อมูลจาก  :  สำนักงานสถิติแห่งชาติ

วันอังคารที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

More web-based and other types/Structures

JMP Graph Builder

on the go. Graphs at your fingertips.

JMP Graph Builder is the best way to view and explore JMP data tables right on your iPad. Create, edit and view graphs wherever you are with the same Graph Builder engine found in JMP, the desktop statistical discovery software from SAS. Data Filter, new in the latest release of JMP Graph Builder for iPad, lets you focus on specific parts of the data that you are graphing. Consider this free iPad app a bonus for choosing JMP for your statistical discovery needs.
ขอบคุณข้อมูลจาก :  http://www.jmp.com

Get started

  • Send a JMP data table to your iPad via email, Dropbox or iTunes File Sharing.
  • Access a web page with a linked .jmp file.
  • Organize data tables in the gallery.
  • Make a new graph by dragging variables where you want them with live updates.
  • Switch between chart types by tapping in the palette.
  • Filter your data to discover hidden relationships and dependencies.
  • Explore your data with pinch, zoom and pan gestures.
  • Fine-tune your graph with style and color choices.
  • Create custom filters to view interactive subsets of your data.
Data ->

Create Graph ->


Edit ->













Filter ->

 


Share your work

-  Communicate your discoveries via email, PDF, iTunes, Dropbox or Copy/Paste.
-  Display your work using AirPlay or a dock adapter.
-  Use AirPrint to print your graphs on a compatible printer.


Another Type


Stacked Bar Graph

กราฟแท่งแบบวางซ้อนกัน เหมาะสมกับการแสดงผลที่ต้องการเห็นข้อมูลย่อยในแต่ละข้อมูลใหญ่ เราสามารถเห็นอัตราส่วนของข้อมูลย่อยนั้นได้ด้วย แต่เน้นไปที่ข้อมูลชิ้นใหญ่ จากตัวอย่าง A, B และ C นั้นมีส่วนประกอบของเหล็ก ถ่าน และอลูมิเนียมที่แตกต่างกัน แต่เราเน้นหนักไปที่ น้ำหนักของวัตถุแต่ละชนิด

Spark Line

คิดค้นโดย Edward Tufte นิยมใช้สำหรับ Dashboard เพื่อแสดงผลเปรียบเทียบระหว่างชุดข้อมูล



Tree Maps

         คือการแสดงผลแบบพื้นที่ ที่แสดงผลได้ในแบบลำดับชั้น หรือแบบโครงสร้างต้นไม้ เช่นการใช้งาน เนื้อที่ใน Hard disk ที่แบ่งเป็น Folder ย่อย และในแต่ละ Folder ก็จะมีลูกย่อยๆ ลงไปอีก เป็นต้น กราฟนี้สามารถแสดงความแตกต่างได้ด้วยขนาดและความต่างของสี รวมทั้งเฉดสี และความสว่าง อีกทั้งยังง่ายในการเจาะลงไปในส่วนย่อยๆด้วย
        สามารถดูตัวอย่างที่น่าสนใจได้จากโครงการNewsMap (http://newsmap.jp/)  ที่แสดงผลการรวบรวมข่าวจาก Google News โดยเราสามารถวิเคราะห์ดูได้ตามข้อมูลประเทศ ชนิดข่าว เวลา เป็นต้น



Gauges and meters

เกจและมิเตอร์ นิยมใช้แสดงค่าตัวเลขเดี่ยวๆ หรือใช้เปรียบเทียบกับข้อมูลอื่นที่สัมพันธ์กัน สามารถใช้สีเพื่อแสดงถึงช่วงของตัวเลขได้ด้วย (เช่น เขียว-เหลือง-แดง แปลเป็น ปกติ-เตือน-ระวัง) มักจะใช้ใน Dashboard
ปัญหาของเกจคือใช้พื้นที่เยอะ และถ้ามีเกจหลายตัวจะลำบากในการจัดเรียงในพื้นที่จำกัด
ปัญหาของมิเตอร์คือ การแทนค่าด้วยสีหรือลวดลาย ทุกคนไม่ได้รู้ความหมายของสีเหล่านั้น




ขอบคุณที่มากจาก  :  http://pkieindruck.exteen.com/20140416/entry

วันเสาร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2558

web-based tools & google charts

web-based tools & google charts

  ดารากับการทำศัลยกรรม


ขอบคุณข้อมูลจาก :  http://nidapoll.nida.ac.th/

จากข้อมูลดารากับการศัลยกรรม สามารถนำมาสร้างเป็น Data Visualization : การใช้รูปภาพช่วยอธิบาย เพื่อให้ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ผลการทดลองใช้  Tool datawrapper  ->  https://datawrapper.de/ 


         เครื่องมือที่มีไว้เพื่อสร้าง Chart และ Maps อย่างง่ายดาย เพียงแค่ 4 step ซึ่งเป็นการประหยัดเวลาในการสร้าง Data visualization









ทดลองใช้ Google Charts



Another Tools



 Chartkick   

          Chartkick is a Ruby gem (also has a JavaScript API which doesn’t require Ruby) for creating good-looking charts very easily and quickly. 


ICharts

       The iCharts service provides a hosted solution for creating and presenting compelling charts for inclusion on your website. There are many different chart types available, and each is fully customisable to suit the subject matter and colour scheme of your site.



Raphaël

            This handy JavaScript library offers a wide range of data visualization options which are rendered using SVG. This makes for a flexible approach that can easily be integrated within your own web site/app code, and is limited only by your own imagination.

Visual.ly

        Visual.ly is a combined gallery and infographic generation tool. It offers a simple toolset for building stunning data representations, as well as a platform to share your creations. This goes beyond pure data visualisation, but if you want to create something that stands on its own, it's a fantastic resource and an info-junkie's dream come true!


Better World Flux

       Orientated towards making positive change to the world, Better World Flux has some lovely visualizations of some pretty depressing data. It would be very useful, for example, if you were writing an article about world poverty, child undernourishment or access to clean water. This tool doesn't allow you to upload your own data, but does offer a rich interactive output.

ZingChart

       ZingChart is a JavaScript charting library and feature-rich API set that lets you build interactive Flash or HTML5 charts. It offer over 100 chart types to fit your data.


ขอบคุณที่มา   :  http://www.creativebloq.com   ,   http://www.fastcodesign.com/

วันอังคารที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2558

Graph & Chart

"Data Visualization " เป็นสิ่งหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้แสดงแทนคำพูด เป็นการใช้ภาพเพื่อแสดงข้อมูลในเชิงปริมาณที่วัดได้ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข แผนภูมิ กราฟ และอื่นๆอีกมากมาย
 คำว่า Data คือ ข้อมูล  ส่วน Visualization คือ การมองเห็น
เมื่อนำมารวมกันแล้วหมายถึง ข้อมูลที่มองเห็นได้ด้วยตานั่นเอง

ประโยชน์ของ Data Visualization
           คือทำให้ข้อมูลในเชิงปริมาณดูน่าสนใจ เข้าใจง่าย เห็นภาพรวมได้ชัดเจน ง่ายต่อการจดจำ     และนิยมนำมาใช้ประกอบในการรายงาน การวิเคราะห์ สรุปผล อย่างแแพร่หลาย

ปัจจุบันมีเครื่องมือในการสร้าง Data Visualization อยู่มากมาย ยกตัวอย่างเช่น

1. Spreadsheet 
             ใช้ในการคำนวณ วิเคราะห์ตัวเลข และนำเสนอตัวเลข สร้างกราฟ ในรูปแบบที่หลากหลาย    สนับสนุนสูตร หรือ ฟังก์ชั่น ต่างๆ มากมาย
ในการสร้าง Data Visualization  เริ่มต้นจากการสร้างข้อมูล เป็นตาราง (อธิบายการใช้เวลาในแต่ละสัปดาห์ของฉัน )

แล้วทำการนำข้อมูลที่สร้างขึ้นมาสร้างเป็นกราฟ ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกสร้าง

Ex.  1. Column


         2. Bar

         3. Pie

2. Processing.js
               เป็น Tools สำหรับใช้สร้างงานกราฟิก ตั้งแต่ระดับเริ่มต้นง่ายๆ ไปจนถึงระดับสูง ซึ่งใช้ได้ทั้ง   งานแบบ 2D และ 3D


และยังมีอีกหลายหลายวิธีสร้าง Data Visualizationg ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบโปรแกรม  หรือ online
 
สร้างจาก  : http://www.onlinecharttool.com/graph



สร้างจาก : https://live.amcharts.com/